ไก่ไข่ นับว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจของเมืองไทย ซึ่งสำหรับเพื่อการเลี้ยงก็เลยจำเป็นต้องนึกถึงประสิทธิภาพผลิตผลที่กำลังจะได้ แม้กระนั้นถ้าเกิดพวกเราจะเอามาเลี้ยงเพื่อไก่ออกไข่ได้ตลอดทั้งปี เพื่อนำมารับประทานในครอบครัวก็สามารทำเป็นเช่นเดียวกัน

    อย่างที่ทราบ ไข่ เป็นของกินที่มีสารอาหารรวมทั้งคุณค่าเยอะมาก ยังช่วยสร้างเสริมให้สุขภาพแข็งแรง และก็ช่วยทำนุบำรุงสายตา บำรุงสมอง บำรุงหัวใจ และก็เหมาะสมให้คนทุกเพศทุกวัยกิน ถึงแม้ปัจจุบันนี้ราคาไข่ไก่ในตลาด จะมีการปรับขึ้นลงตลอดระยะเวลา แต่ว่าหากพวกเราไม่ต้องการที่จะอยากจะซื้อไข่ไก่ทาน ก็มีแนวทางง่ายๆเป็นการเลี้ยง ไก่ เพื่อมันออกไข่ให้พวกเรากินแทน แม้กระนั้นถ้าหากจะเลี้ยงไก่ไข่ จะมีแนวทางยังไง และก็จะต้องเลือกสายพันธุ์ไหนมาเลี้ยง วันนี้พวกเรามีแนวทางเลือกสายพันธุ์ แล้วก็การเลี้ยงมาบอกกัน

สายพันธุ์ ไก่ไข่ กล่าวได้ว่ามีหลากหลายสายพันธุ์ แต่ว่าถ้าสายพันธุ์ ที่เกษตรกรนิยมเอามาเลี้ยงมี 3 สายพันธุ์ร่วมกัน ได้แก่

    1. ไก่โรดไทย (Rhode Thai)เป็นไก่ครึ่งหนึ่งเนื้อครึ่งไข่ ที่ถูกปรับปรุงสายพันธุ์ จนถึงมีหงอนแบบ หงอนจักรขนาดกึ่งกลาง มีรูปร่างค่อนข้างจะยาวแล้วก็ลึก เป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า ขนทั่วๆไปตามลําตัวมีสีน้ำตาลปนแดงเข้ม ขนปีกขนหางมีสีดําชำเลืองเขียว ผิวหนังรวมทั้งแข้งมีสีเหลืองจัด ปากมีสีแดงเหลือง ตาสีแดง หงอนจักร 5 แฉก แผ่นหูมีสีแดง เปลือกไข่มีสีน้ำตาล ขนาดไข่ใหญ่ปานกลางสามารถเลี้ยงเพื่อใช้ประโยชน์ได้อีกทั้งเนื้อและก็ไข่ ลักษณะประจำชนิดเป็น มีขนสีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาล เปลือกไข่สีน้ำตาล ให้ไข่ฟองแรกได้เมื่ออายุโดยประมาณ 168 วัน อัตราการให้ไข่ 94% ผลิตผลราว 240 ฟองต่อตัวต่อปี

2. ไก่ไข่ไทยกรมปศุสัตว์ (DLD Layer Hen)
มีลักษณะประจำประเภทเป็น ขนสีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลเข้ม ขนปีกสีน้ำตาล สร้อยคอสีน้ำตาลเข้ม หงอนจักรใหญ่สีแดงสด เหนียงสีแดงใหญ่ ตุ้มหูแดงมีสีขาวปนนิดหน่อย ผิวหนังและก็หน้าแข้งมีสีเหลือง ปลายหางมีสีดำ เปลือกไข่สีน้ำตาลอ่อน ให้ไข่ฟองแรกเมื่ออายุ 169 วัน ผลิตผลราว 290 ฟองต่อตัวต่อปี

3. ไก่ไข่เล็กฮอร์นขาวหงอนจักร (Single Comb White Leghorn)เป็นไก่พันธุ์แท้ มีลักษณะประจำชนิดเป็น มีขนาดเล็ก ขนสีขาว เปลือกไข่สีขาว ไข่ดก ให้ไข่เร็ว เริ่มให้ไข่ได้เมื่ออายุ 4 เดือนครึ่ง ถึง 5 เดือน ผลิตผลราว 300 ฟองต่อตัวต่อปี

ขั้นตอนการเลือกประเภทไก่ไข่ สำหรับมือใหม่อาจเริ่มต้นจากสอบถามคนที่มีประสบการณ์เพื่อนำมาเทียบสำหรับการเลือกสายพันธุ์ไก่ต่อไป ซึ่งข้อคิดเตือนใจง่ายๆสำหรับในการเลือกสายพันธุ์ไก่มีดังนี้

1. เลือกไก่สายเลือดดีผ่านการคัดเลือกสายพันธุ์ขึ้นมาเป็นไก่ไข่โดยยิ่งไปกว่านั้น มีลักษณะตรงตามประเภท
2. ผลิตขึ้นจากฟาร์มที่มีมาตรฐานดี เชื่อถือได้
3. ได้ผลผลิตไข่สูง นาน ทน ไข่ฟองใหญ่ เปลือกหนา
4. มีอัตราการเลี้ยงรอดสูง แข็งแรง ทนต่อ สิ่งแวดล้อมรวมทั้งอากาศของไทยก้าวหน้า

กระบวนการเลี้ยงไก่ มี 2 ลักษณะ

1. การเลี้ยงไก่ไข่แบบปลดปล่อย (Free-range system)

คือ ระบบการจัดการเลี้ยงไก่ที่ปลดปล่อยให้ไก่ได้ออกมา ข้างนอกคอกหรือโรงเรือนได้อย่างอิสระ โดยเป็นหลักที่ที่มีต้นหญ้า ปกคลุม 5 ตารางเมตร/ ไก่ไข่ 1 ตัว ส่วนพื้นที่ในโรงเรือน 1 ตารางเมตร/ไก่ไข่ 4 ตัว
สำหรับวิธีการนี้ ทำให้ไก่ได้อยู่ตามธรรมชาติ การคลุกฝุ่น การไซร้ขน การจิกกินพืช ผัก แมลง ทำให้ไก่เป็นสุข อารมณ์ดี ก็เลยเรียกว่า “Happy Chicken”

2. การเลี้ยงไก่ไข่แบบโรงเรือน
ขั้นตอนการนี้ โรงเรือนไก่ไข่จะต้องมีความแข็งแรง แข็งแรง คุ้มครองลม ป้องกันแสงแดด กันฝน รวมทั้งสัตว์อื่นๆได้แก่ นก แมว หนู และก็หมาได้ ทำความสะอาดได้อย่างง่ายดาย อยู่ห่างจากชุมชนเพื่อคุ้มครองป้องกันกลิ่นเหม็นก่อกวน ส่วนประกอบควรจะเป็นคอนกรีต มีอุปกรณ์รองพื้นคอก เป็นต้นว่า แกลบหนา 3-5 นิ้ว แล้วก็จะต้องมีรังไข่ 1 ช่อง ต่อแม่ไก่ 4 ตัว แล้วก็ทางเข้า-ออก 2 ด้าน เพื่อเวียนปล่อยไก่ออกสู่แปลงอิสระ ดังนี้ ถ้าเกิดมีโรงเรือนมากยิ่งกว่า 1 ข้างหลัง แต่ละข้างหลังควรจะเว้นระยะห่างกันมากยิ่งกว่า 10 เมตร เพื่ออากาศถ่ายเทได้สะดวกรวมทั้งคุ้มครองปกป้องการแพร่ระบาดของโรคสำหรับของกินแล้วก็น้ำ
ในตอนที่ยังเป็นลูกเจี๊ยบ ควรจะได้รับของกินที่มีโปรตีนสูง รับประทานแบบสุดกำลัง โดยให้ทีละน้อยๆแต่ว่าบ่อยมาก ซึ่งแนวทางแบบนี้จะช่วยทำให้ลูกเจี๊ยบได้รับประทานอาหารสดใหม่ รวมทั้งกระตุ้นการกินของกินได้มากขึ้นในส่วนไก่รุ่นสาว ควรจะได้รับของกินที่มีโปรตีน ควบคุมการรับประทานอาหารให้ไก่ได้รับประทานราวๆ 85% ไม่สมควรให้มากจนเกินความจำเป็น ด้วยเหตุว่าจะนำมาซึ่งการทำให้ไก่วางไข่เร็วเกินความจำเป็น โดยแนวทางให้อาหารไก่รับประทานตั้งแต่รุ่งเช้าจนกระทั่งเวลา 15. 30 นาฬิกา ให้แขวนถังของกินขึ้น รวมทั้งปลดถังของกินลงในเช้าตรู่วันพรุ่งนี้

สำหรับในการเลี้ยงไก่ หรือสัตว์อื่นพบมากปัญหา รวมทั้ง โรคระบาดต่างๆเป็นต้นว่า โรคนิวคาสเซิล โรคหลอดลมอักเสบติดต่อ โรคอหิวาต์ไก่ และก็โรคฝีดาษไก่ ที่สามารถคุ้มครองป้องกันด้วยการฉีดยา คุ้มครองโรคให้กับไก่ตามช่วงเวลา